วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Helminths



พยาธิไส้เดือน  ( Ascaris lumbricoides )



            โรคพยาธิไส้เดือน สามารถพบได้ทุกแห่งในโลก พบได้บ่อยในประเทศเขตร้อนที่มีอากาศ และพื้นดินชุ่มขึ้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของพยาธิชนิดนี้ เป็นกันมากในหมู่ประชาชนที่ยากจนและขาดความรู้ในด้านสุขวิทยาส่วนบุคคลอยู่ในแหล่งที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี เช่น ไม่มีส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ขอบถ่ายอุจจาระลงบนพื้นดินในบริเวณใกล้เคียงบ้านเรือน เมื่อเด็กเล่นบนพื้นดิน จึงมีโอกาสที่จะได้รับไข่พยาธิเข้าสู่ร่างกายซึ่งมักเป็นมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนและ วัยก่อนเรียน


เชื้อที่ทำให้เกิดโรค 


                เชื้อที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ หนอนพยาธิชนิด แอสคาริส ลุมบริคอยดีส ( Ascaris lumbricoides ) มีรูปร่างคล้ายไส้เดือนดิน ตัวโตหัวและหางเรียวกลม สีขาวนวลหรือชมพูเรื่อๆ เป็นพยาธิตัวกลมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลำไส้ใหญ่กว่าพยาธิตัวกลมชนิดอื่น ตัวผู้ยาว 15- 20 ซม.กว้าง 2-4 มม. ตัวเมียยาว 20-35 ซม. กว้าง 1-6 มม. ตัวผู้มักหางงอเล็กน้อย ตัวเมียหางไม่งอ มักอาศัยอยู่ในลำไส้เล็ก ตัวเมียสามารถออกไข่ได้ประมาณ 200,000 ฟองต่อหนึ่งวัน ดังนั้นแม้จะมีอยู่ในร่างกายไม่กี่ตัวแต่ก็สามารถไข่ปนออกมากับอุจจาระได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งไข่ของพยาธิชนิดนี้ทนต่อสภาพแวดส้อมต่างๆภายนอกได้ดี ไข่อาจอยู่ได้นานเป็นเดือนหรือเป็น ปี ๆ ถือเป็นโรคพยาธิเรื้อรังที่อาศัยอยู่ในลำไส้


วงจรชีวิตของพยาธิ



                     


          พยาธิตัวแก่อาศัยอยู่ในลำไส้เล็ก แย่งอาหารที่ย่อยแล้วในลำไส้กิน ตัวแก่มีอายุ 6 เดือนถึง 1 ปี    มีสองเพศคือตัวผู้และตัวเมีย ตัวเมียจะวางไข่วันละประมาณ 200,000 ฟอง ไข่จะออกมาพร้อมกับอุจาระ   ไข่ที่ไม่ได้รับการผสมพันธุ์จะไม่สามารถติดต่อ ไข่ที่ผสมแล้วจะเจริญเป็นตัวอ่อนในเวลา 10-21 วัน เมื่อคนกินในระยะนี้จะเป็นระยะติดต่อ   , depending on the environmental conditions (optimum: moist, warm, shaded soil).  เมื่อตัวอ่อนถูกกิน  , ตัวอ่อนจะไชทะลุผนังลำไส้  , ไปตามหลอดเลือดดำที่ไปเลี้ยงตับ เข้าสู่ปอด .  ตัวอ่อนจะเจริญเป็นตัวแก่ในปอดโดยใช้เวลาประมาณ10 ถึง 14 วัน ตัวแก่จะไชผ่านผนังของถุงลม เข้าหลอดลม เข้าคอ และถูกกลืน   เชื้อจะเจริญเป็นตัวแก่  ที่ลำไส้เล็ก.  ตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งโตเป็นตัวแก่ใช้เวลา 2-3 เดือน ตัวแก่สามารถมีอายุ 1-2 ปี


พยาธิสภาพ 
      
            โรคพยาธิไส้เดือนตัวกลมจะแพร่กระจายในภาคใต้มากกว่าภาคอื่นเนื่องจากเขตภาคใต้มีความชุ่มชื้นตลอดปี อากาศก็ไม่ร้อน โรคมักจะเป็นในเด็กเพราะเด็กมักจะกิน หรือเล่นบนพื้นดิน


การติดต่อ

                โรคนี้มักจะเกิดกับเด็กนำเอามือที่ปนเปื้อนดินและมีไข่พยาธิเข้าปาก


อาการของโรค

   อาการของโรคพยาธิไส้เดือนแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ
   1.       อาการเกิดจากพยาธิตัวอ่อนกำลังเดินทาง ขณะที่ตัวอ่อนกำลังเดินทางจากลำไส้ไปปอดอาจจะทำให้เกิดไข้ ไอ หายใจแน่ หอบเหนื่อย เสมหะอาจจะมีเลือดปน อาจจะมีพยาธิตัวอ่อนออกมาด้วย บางคนอาจจะเกิดลมพิษอาการเหล่านี้มักจะเกิดภายหลังจากไดรับไข่พยาธิ 4-16 วัน
   2.       อาการเกิดจากตัวแก่ เนื่องจากพยาธิตัวแก่จะแย่งอาหารเด็กอาจจะขาดอาหาร อาจจะมีลมพิษ หากมีพยาธิเป็นจำนวนมากอาจจะเกาะกันเป็นก้อนทำให้อุดทางเดินลำไส้หรือทางเดินน้ำดีทำให้เกิดอาการดีซ่าน
  • ปวดท้องเนื่องจากพยาธิอุดลำไส้
  • เสียดท้อง คลื่นไส้อาเจียน
  • ตับอ่อนอักเสบ เนื่องจากพยาธิไช
  • ถุงน้ำดีอักเสบ
  • ไส้ติ่งอักเสบ
  ผู้ป่วยที่เป็นพยาธิไส้เดือนเวลามีไข้มักจะปวดท้องเนื่องจากพยาธิจะดิ้นเพราะมันทนต่อความร้อนไม่ได้


การวินิจฉัย

1.       ตรวจพบตัวแก่ออกมาในอุจาระหรือในสิ่งที่อาเจียน
2.       ตรวจอุจาระพบไข่พยาธิ








              

               ไข่พยาธิ                                                               พยาธิตัวแก่



การป้องกัน

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสดินเพราะจะทำให้มือสัมผัสกับไข่พยาธิ
  • ให้ถ่ายอุจาระให้ห้องน้ำ ไม่ถ่ายอุจาระลงบนดิน
  • กำจัดผ้าอ้อมอย่างเหมาะสม
  • ล้างมือด้วยสบู่ก่อนรับประทานและเตรียมอาหาร
  • หากไปเที่ยวประเทศที่มีระบบสาธารณะสุขไม่ดีต้องระวังน้ำเดิมและอาหารว่าอาจจะปนเปื้อนไข่พยาธิ
  • ล้างผักและผลไม้ก่อนที่จะนำไปปรุงหรือรับประทานอาหาร

การรักษา

·                             Mebendazole ขนาด 100 มก.รับประทานวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน
·                            Albendazole ขนาด 400 มก.รับประทานครั้งเดียว หากไม่หาย(ยังตรวจพบไข่พยาธิ)ให้ซ้ำอีกครั้งใน 3 สัปดาห์
·                            Piperazine citrateยานี้เหมาะสำหรับรายที่สงสัยว่าพยาธิจะไปอุดลำไส้หรือท่อน้ำดี เพราะยาจะทำให้กล้ามเนื้อของพยาธิอ่อนแรงขนาดที่ใช้ 305 กรัมวันละ 4 ครั้งเป็นเวลา 2 วัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น